7 ข้อคิดของ Randy Pausch ชายผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน

หากคุณรู้ตัวว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาดแล้ว คุณจะมอบสิ่งใดให้กับโลกใบนี้ก่อนที่คุณจะจากลาไป...

Randy Pausch ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์แห่งมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายและบั่นทอนต่อกำลังใจนี้ เขาได้ตัดสินใจมอบการบรรยายครั้งสุดท้ายในชีวิตแก่เหล่านักศึกษาที่รู้จักกันในชื่อ "การบรรยายครั้งสุดท้าย (The Last Lecture)" เพื่อแบ่งปันบทเรียนชีวิตและภูมิปัญญาให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง การบรรยายที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ได้ถูกถ่ายทอดสู่หนังสือที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและทรงคุณค่า

Koon "คูน" ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาด้าน Palliative Care (แบบประคับประคอง) จึงมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนไข้และครอบครัวอย่างเข้มข้นทั้งกาย ใจ สังคมและจิตวิญญาณ โดยเฉพาะคนไข้ในกลุ่มโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดและอาการของโรคนั้นส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ลดลงและไม่ดีอย่างที่เคย ผู้ป่วยระยะสุดท้ายและระยะลุกลาม เช่น โรคมะเร็งระยะสุดท้าย โรคมะเร็งระยะลุกลาม โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม โรคพาร์คินสัน โรคหัวใจเรื้อรัง โรคปอด โรคไตระยะท้าย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคตับแข็งระยะท้าย ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยไอซียู(ICU) ที่เข้าออกรพ.บ่อยครั้ง ผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด ฯลฯ รวบรวมมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้มีโอกาสได้ทบทวน ระลึก และตระหนักเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตร่วมกัน รวบรวม 7 ข้อคิดการดำเนินชีวิตและกำลังใจของ Randy Pausch มาแบ่งปันให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเอง เพื่อรับมือและเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิต

  1. คว้าโอกาสในทุกห้วงเวลาของชีวิต Randy Pausch ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลาในชีวิต เขาสนับสนุนให้ทุกคนมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันและคว้าโอกาสในการสร้างความทรงจำอันมีค่าร่วมกับคนรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่คุณรักที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา โดยหนึ่งในคำพูดที่เขาได้บรรยายคือ "คำถามสำคัญที่ต้องถามตัวเองต่อไปคือ คุณกำลังใช้เวลาไปกับสิ่งที่ใช่หรือไม่ เพราะเวลาคือสิ่งเดียวที่คุณมี" สิ่งนี้กำลังย้ำเตือนเราถึงธรรมชาติที่จำกัดของเวลา และกระตุ้นให้เราไตร่ตรองถึงวิธีที่เราจัดสรรเวลาและพลังงานของเราไปกับสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญในชีวิต

  2. ตามฝันในวัยเด็ก Randy Pausch สนับสนุนให้เราหวนกลับมามองถึงความฝันและความปรารถนาในวัยเด็กของเรา ความฝันเหล่านี้ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความหลงใหลของเรา และสามารถนำทางเราไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเขาได้แนะนำว่า "ไม่ใช่เรื่องของวิธีการบรรลุความฝันของคุณ แต่เป็นเรื่องของวิธีการใช้ชีวิตของคุณ หากคุณใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง การกระทำก็จะดูแลตัวเองและความฝันจะมาหาคุณ" สิ่งนี้สื่อถึงแนวคิดที่ว่า แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การบรรลุความฝันอย่างคลั่งไคล้แต่เพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือ ต้องให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับค่านิยมและหลักการของคุณ เมื่อคุณใช้ชีวิตด้วยความซื่อสัตย์และมีเป้าหมาย โอกาสในการทำให้ความฝันของคุณเป็นจริงก็จะปรากฏขึ้นเองตามธรรมชาติ

  3. เปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส "กำแพงอิฐมีอยู่เพื่อเหตุผล กำแพงอิฐไม่ได้มีอยู่เพื่อกีดกันเราออกไป กำแพงอิฐมีอยู่เพื่อให้เรามีโอกาสได้แสดงให้เห็นว่าเราต้องการอะไรมากแค่ไหน" แนวคิด "กำแพงอิฐ" ของ Randy Pausch ได้เน้นย้ำว่าอุปสรรคไม่ใช่สิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เป็นโอกาสสำหรับการเติบโต เขาได้สร้างแรงบันดาลใจว่าอุปสรรคไม่ใช่สิ่งกีดขวางที่หมายจะขัดขวางเรา แต่เป็นโอกาสสำหรับการเติบโตและความมุ่งมั่น การเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้เป็นวิธีพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความปรารถนาของเราที่จะบรรลุเป้าหมาย

  4. มุ่งมั่นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ "การบ่นไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดี เราทุกคนมีเวลาและพลังงานที่จำกัด ทุกครั้งที่เราใช้เวลากับการบ่น มันจะไม่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้ และจะไม่ทำให้เรามีความสุขขึ้น" คำกล่าวของ Randy Pausch นี้แนะนำให้พวกเราหลีกเลี่ยงนิสัยการบ่นซึ่งไม่มีประโยชน์ Pausch เน้นย้ำว่าการบ่นไม่ได้นำไปสู่การแก้ปัญหาหรือความคืบหน้า ในทางกลับกัน มันเป็นการเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณ ซึ่งอาจใช้ไปในทางที่สร้างสรรค์ในเชิงบวกมากกว่า เพื่อรับมือกับความท้าทายและทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย

  5. มอบสิ่งที่มีคุณค่าให้กับสังคม Randy Pausch กล่าวถึงแนวคิดของการส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าของตนไว้ เขาสนับสนุนให้ทุกคนพิจารณาว่าพวกเราสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้อื่นและมีส่วนร่วมต่อส่วนรวม พร้อมส่งต่อคุณค่าที่เรามีและทิ้งความทรงจำที่ดีให้กับคนรอบตัว

  6. ทะนุถนอมใส่ใจในความสัมพันธ์ การบรรยายในครั้งสุดท้ายของ Randy Pausch ให้ความสำคัญของการทะนุถนอมและการดูแลเอาใจใส่ในความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง เพราะสิ่งที่สำคัญต่อการดูแลสุขภาพทางร่างกายจิตใจ คือ ความรักและความอบอุ่น ซึ่งได้สร้างแรงกายและแรงใจให้แก่กันและกันสำหรับคนไข้และครอบครัว

  7. ยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับความทุกข์ เส้นทางชีวิตของ Pausch กับโรคระยะสุดท้ายเป็นบทเรียนอันน่าประทับใจในเรื่องของความยืดหยุ่น เขาแสดงให้เห็นว่าคนเราสามารถรักษาความสง่างาม อารมณ์ขัน และคงศักดิ์ศรีไว้ได้แม้กระทั่งในยามที่เผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทุกคนสามารถเลือกที่จะสร้างความทรงจำที่สวยงามให้กับตนเองและคนรอบตัวได้

เรื่องราวของ Randy Pausch เป็นบทพิสูจน์ที่ทรงพลังถึงจิตวิญญาณของมนุษย์และความสำคัญของการค้นหาความหมายและจุดมุ่งหมายในการเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากในชีวิต ให้มุมมองของความตายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และความสำคัญของการทะนุถนอมคนที่เรารัก ซึ่งมีคุณค่าสำหรับผู้ที่เผชิญกับการสูญเสียในระยะประคับประคอง เนื่องจากเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และฝากคุณค่าและประโยชน์ในเชิงบวกไว้กับผู้คนรอบข้างเรา "The Last Lecture" จึงเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจและสร้างความหวัง ซึ่งสามารถให้กำลังใจและความอบอุ่นแก่บุคคลและครอบครัวที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายของการดูแลแบบประคับประคองและการสูญเสีย ย้ำเตือนให้เราซาบซึ้งในเวลาที่เรามีและใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม

สามารถศึกษาข้อมูล เพราะอะไร "คูน" ถึงเป็นทางเลือกการรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของ "คุณ" ? เพื่อทราบรูปแบบการรักษาของรพ.คูน ซึ่งมุ่งหวังที่จะสร้างและเติมเต็มคุณภาพชีวิตและช่วงเวลาที่มีค่าของคนไข้และครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายและความปรารถนาที่แท้จริงเฉพาะบุคคลอย่างเข้มข้มครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ

เบอร์โทรศัพท์ : 02-405-3899 หรือ คลิกเพื่อลงทะเบียนนัดหมายรับคำปรึกษาจากแพทย์

Facebook : https://www.facebook.com/koonhospital
LINE Official : https://lin.ee/XqcpBmP
Maps : https://goo.gl/maps/xAMCi2jLC8SpSzfk8